ReadyPlanet.com
พื้นที่โฆษณา-ลิงก์ผู้สนับสนุน (ADVERTISEMENT)
*YesSpaThailand.com เราสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อคุณ... ศูนย์รวมองค์ความรู้เกี่ยวกับสปา อโรมาเทอราปี นวดแผนไทย โรงเรียนสปา โรงเรียนนวดแผนโบราณ สมุนไพร วิถีแห่งธรรมชาติบำบัด แพทย์ทางเลือก อายุรเวท ความงาม ผู้หญิง สุขภาพ โยคะ เครื่องดื่มสปาเพื่อสุขภาพ ศูนย์รวมผลิตภัณฑ์สปา แนะนำการลงทุนในธุรกิจสปา สปาแฟรนไชส์-เส้นทางลัดสู่การลงทุน ศูนย์รวมรายชื่อธุรกิจสปา Spa Dicectory ข่าวท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวรับสมัครงาน โปรโมชั่น ส่วนลดพิเศษ...YesSpaThailand.com *เทคนิควิธีการนวดแผนโบราณ วิธีการนวดฝ่าเท้า วิธีการนวดขา วิธีการนวดใบหน้า คอ แขนและมือ วิธีการนวดในท่านั่ง วิธีการนวดคอ วิธีการไหล่และหลัง วิธีการนวดไทยขั้นพื้นฐาน วิธีนวดหน้า วิธีการนวดไหล่ วิธีการนวดคอ วิธีการนวดขาและนวดเท้า วิธีการนวดเอวและนวดหลัง วิธีการนวดแขนและนวดมือ วิธีการนวดกดจุดฝ่าเท้าเบื้องต้น ขั้นพื้นฐาน ขอขอบคุณทุกท่าน เข้าชมเว็บไซต์ครบ *แนะนำโรงเรียน-สอนนวดฟรี-เรียนนวดฟรี:-เรียนนวดแผนไทยฟรี-สอนนวดกดจุดฝ่าเท้าฟรี  สูตรวิธีการทำเครื่องดื่มน้ำผักผลไม้-สูตรล้างสารพิษ สูตรลดความเครียด สูตรรักษาโรค เสริมภูมิคุ้มกัน สูตรวิธีการทำสมุนไพรสด สำหรับพอกหน้า-พอกตัว ยาแผนโบราณตำรายาสมุนไพรวัดโพธิ์ วิธีการนวดตามธาตุเจ้าเรือน ดิน น้ำ ลม ไฟ Four Element Massage สมุนไพรแห่งความงาม9,546,019 Visitors *โยคะ (Yoga) คืออะไร ประวัติโยคะ วิธีการฝึกโยคะ สูตรการฝึกโยคะ ประโยชน์ของการฝึกโยคะ คำแนะนำในการฝึกโยคะ ข้อควรระวังในการฝึกโยคะ การเตรียมตัวฝึกโยคะ (Yoga) อุปกรณ์ของการฝึกโยคะ โยคะอาสนะ (Asana) คืออะไร?  โยคะร้อน (Bikram Yoga) คืออะไร? โยคะต้านแรงโน้มถ่วง (Antigravity Yoga) คืออะไร?  เทคนิควิธีฝึกการหายใจแบบโยคะ (ปรานายามา) ลมปราณแห่งชีวิต วิธีการฝึกหายใจแบบโยคะ: การหายใจทางจมูกสลับข้าง19,032,108 PageViews *สปาคืออะไร ประเภทของสปา รูปแบบและบริการของสปา องค์ประกอบของสปาเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรสำหรับสปา สปาไทย-สปาตะวันตก	 สปาหู สปามือ สปาเท้า สปาผม สปาปลาบำบัด อโรมาเทอราปี (สุคนธบำบัด) ประเภทของการนวดกับอโรมาเทอราปี  วิธีการผลิต การสกัด สรรพคุณ น้ำมันหอมระเหย เอสเซ็นเชียล ออยล์ สูตรผสมและคุณประโยชน์สถิติเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2567*วิธีการนวดแผนโบราณ ประโยชน์ของการนวดแผนโบราณ ขั้นตอนการนวดฝ่าเท้าและการกดจุดฝ่าเท้า ข้อควรระวัง ข้อห้ามและข้อควรปฏิบัติหลังการนวดแผนโบราณ ข้อแตกต่างของการนวดแบบทั่วไปกับการนวดแบบราชสำนัก ความลับของการนวดฝ่าเท้า ประโยชน์ของลูกประคบสมุนไพร การอบสมุนไพร วิธีประโยชน์ของการอยู่ไฟ คุณแม่หลังคลอดบุตร


สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเครดิตบูโร (Credit Bureau)
avatar
Credit Bureau


สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเครดิตบูโร (Credit Bureau)


 
Q: เครดิตบูโร คือ อะไร
 A: เครดิตบูโร หรือ บริษัทข้อมูลเครดิต (Credit Bureau) คือ บริษัทที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลเครดิตจากสถาบันการเงินหลายๆแห่งที่เป็นสมาชิก นำมารวบรวมประมวลผลเป็นข้อมูลเครดิตในภาพรวมสำหรับลูกค้าเจ้าของข้อมูลแต่ละราย และเมื่อสถาบันการเงินหรือลูกค้าเจ้าของข้อมูลต้องการเรียกดูรายงานข้อมูลเครดิตภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายกำหนด บริษัทข้อมูลเครดิตจึงจะเปิดเผยข้อมูลเครดิตนั้นในรูปของรายงานข้อมูลเครดิต

Q: รายงานข้อมูลเครดิต คือ อะไร
 A: รายงานข้อมูลเครดิต (Credit Report) คือ รายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าที่ขอสินเชื่อ โดยมีข้อมูลประกอบไปด้วยข้อเท็จจริงที่บ่งชี้ถึงตัวลูกค้า และคุณสมบัติของลูกค้าที่ขอสินเชื่อ และประวัติการขอและการได้รับอนุมัติสินเชื่อ และการชำระสินเชื่อของลูกค้าที่ขอสินเชื่อ รวมทั้งประวัติการชำระราคาสินค้าหรือบริการโดยบัตรเครดิต
 
รายงานข้อมูลเครดิตก็คือรายงานข้อมูลสินเชื่อ ดังนั้นจึงไม่มีข้อมูลบัญชีเงินฝากหรือข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนตัวของท่านในรายงานข้อมูลเครดิต
 
ข้อมูลเครดิตในฐานข้อมูลมิใช่เป็นแบล็กลิส (Black List) แต่อย่างใด จริงๆ แล้ว เครดิตบูโรไม่มีสิทธิ์ในการจัดแบล็กลิสผู้ขอสินเชื่อนะคะ เพราะเครดิตบูโรจะทำหน้าที่รวบรวมประวัติการชำระสินเชื่อหรือบัตรเครดิตของสินเชื่อทุกบัญชีจากสถาบันการเงินตามข้อเท็จจริง ซึ่งสถาบันการเงินใช้ข้อมูลเครดิตเป็นส่วนประกอบหนึ่งในการพิจารณาสินเชื่อค่ะ เพราะการตัดสินใจว่าจะให้หรือไม่ให้สินเชื่อนั้นยังมีปัจจัยอื่นๆ อีก เช่น รายได้ของผู้สมัครสินเชื่อ หลักประกัน บุคคลผู้ค้ำประกัน เป็นต้นค่ะ ในทางกลับกัน หากผู้ขอสินเชื่อมีประวัติการชำระสินเชื่อตรงเวลา ข้อมูลเครดิตก็จะมีส่วนช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้สถาบันการเงินพิจารณาอนุมัติสินเชื่อได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
 
Q: ใครเป็นผู้เรียกดูรายงานข้อมูลเครดิต
 A: สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของบริษัทข้อมูลเครดิตเป็นผู้เรียกดูรายงานข้อมูลเครดิตเกี่ยวกับตัวลูกค้าที่ขอสินเชื่อ ทั้งนี้ในการสมัครขอสินเชื่อนั้นโดยปกติสถาบันการเงินจะขอให้ท่านให้ความยินยอมในการให้บริษัทข้อมูลเครดิตเปิดเผยข้อมูลอยู่แล้ว และบริษัทข้อมูลเครดิตเปิดเผยข้อมูลเครดิตของท่านให้สมาชิกที่มีความจำเป็นต้องพิจารณาวิเคราะห์การให้สินเชื่อแก่ท่านตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ นอกจากนี้ ผู้บริโภคเจ้าของข้อมูลเองก็มีสิทธิซื้อรายงานข้อมูลเครดิตของตนเองได้ในราคาไม่เกิน 200 บาทต่อฉบับตามกฎหมาย
 
สถาบันการเงินหลักทุกแห่งเป็นสมาชิกของบริษัทข้อมูลเครดิต เช่น ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ บริษัทลีสซิ่งเช่าซื้อ บริษัทผู้ออกบัตรเครดิตที่เรียกกันว่านอนแบงก์ เป็นต้น
 
แต่ไม่รวมถึงค่าไฟฟ้า น้ำประปา ค่าโทรศัพท์บ้าน ค่าโทรศัพท์มือถือ ค่าอินเตอร์เน็ต รวมถึงเงินกู้ยืมของกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ) ยังไม่มีการนำส่งข้อมูลเข้ามาในระบบข้อมูลเครดิต
 
Q: ทำไมจึงถูกปฏิเสธคำขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน
 A: เครดิตบูโรเปิดเผยประวัติการขอและการชำระสินเชื่อของท่านในรายงานข้อมูลเครดิต แต่ไม่ได้ทำหน้าที่พิจารณาให้หรือไม่ให้สินเชื่อ สถาบันการเงินแต่ละแห่งมีนโยบายการให้สินเชื่อเป็นของตนเองซึ่งอาจแตกต่างกันไปในระหว่างสถาบันการเงิน สถาบันการเงินไม่ได้รายงานให้บริษัทข้อมูลเครดิตทราบว่าทำไมจึงตอบรับการให้สินเชื่อหรือทำไมจึงปฏิเสธการให้สินเชื่อแก่ท่าน
 
Q: จะทราบได้อย่างไรว่าถูกปฏิเสธคำขอสินเชื่อเนื่องจากรายงานข้อมูลเครดิต
 A: ตามกฎหมาย หากสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกปฏิเสธการให้สินเชื่อแก่ท่านโดยเหตุอันเนื่องมาจากการได้รับรู้ข้อมูลของท่าน สถาบันการเงินนั้นต้องแสดงเหตุผลรวมทั้งแหล่งที่มาของข้อมูลให้ท่านทราบเป็นหนังสือ หากแหล่งข้อมูลนั้นคือบริษัทข้อมูลเครดิต ท่านสามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าวได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมหากใช้สิทธิตรวจสอบภายในสามสิบวันนับจากวันที่ได้รับคำปฏิเสธการขอสินเชื่อ


 
Q: ข้อมูลในเครดิตบูโรจะเก็บย้อนหลังกี่ปี และจะอัพเดททุกๆ กี่เดือน
 A: ข้อมูลของบุคคลธรรมดา กฎหมายกำหนดไว้ว่าให้เก็บไว้ในระบบประมวลผลได้ไม่เกิน 3 ปี นับแต่วนที่สมาชิกรายงานข้อมูลมายังบริษัท โดยที่จะมีข้อมูลใหม่เข้าไปแทนที่ข้อมูลเก่าเรื่อยไปน่ะค่ะ ส่วนการอัพเดดข้อมูลนั้น สถาบันการเงินจะรายงานประวัิติการชำระของคุณเข้ามาที่บริษัทฯ ทุกๆ สิ้นเดือน
 
ความหมายของ "รหัสสถานะ" ทั้งหมดในเครดิตบูโร...เป็นดังนี้ 
A0 = บัญชีปกติ
 D1 = อยู่ในระหว่าการเจรจาให้ชำระหนี้
 D3 = มีการประนอมหนี้ หรือ มีข้อตกลงในการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่
 D5 = มียอดค้างชำระ
 F0 = กำลังตรวจสอบบัตรเครดิต หรือบัตรประจำตัว เนื่องจากถูกฉ้อฉล
 F1 = บัตรเครดิต หรือบัตรประจำตัว เคยถูกใช้ฉ้อฉล
 L0 =อยู่ในระหว่างกระบวนการทางกฏหมาย
 L3 = ศาลพิพากษายกฟ้อง
 S0 = บัตรเครดิต ถูกขโมย / หาย
 T1 = ขายหนี้ไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือนิติบุคคลอื่น
 T3 = โอนหนี้ไปยังบัญชีใหม่ หรือบัญชีอื่น
 X0 = ปิดบัญชี
 X2 = ลูกค้าเสียชีวิต หรือสาบสูญ
 X5 = ปิดบัญชี ภายหลังจากการติดตามทวงถาม
 X7 = ปิดบัญชีเนื่องจากหนี้สูญ
 10 = สถานะปกติ
 11 = สถานะปิดบัญชี
 12 = พักชำระหนี้ ตามนโยบายของรัฐ
 20 = มีหนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน
 30 = อยู่ในกระบวนการทางกฏหมาย
 31 = อยู่ในระหว่างชำระหนี้ตามคำพิพากษา ตามยอม
 32 = ศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากขาดอายุความ
 33 = ปิดบัญชี เนื่องจากตัดเป็นหนี้สูญ
 40 = อยู่ระหว่างชำระสินเชื่อ เพื่อปิดบัญชี
 41 = เจ้าของข้อมูลขอตรวจสอบรายการ
 42 = โอนหรือขายหนี้



ผู้ตั้งกระทู้ Credit Bureau (Credit-Bureau-at-gmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2012-10-17 23:39:21 IP : 124.122.122.73


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3359275)
avatar
yen

 แล้วถ้าเราติดเครดิตบูโรต้องรอนานแค่ไหรครับถึงจะขอสินเชื่อผ่านได้

ผู้แสดงความคิดเห็น yen วันที่ตอบ 2012-11-01 18:34:25 IP : 118.172.3.113



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © www.YesSpaThailand.com 2010 All Rights Reserved.

พื้นที่โฆษณา -ลิงก์ผู้สนับสนุน (Advertisement)

มูลนิธิส่งเสริมพัฒนาเด็กและเยาวชน