หอการค้าไทย-สภาหอการค้า*ต้านนิรโทษ*ล้างผิดคดีโกง*
"เอกชน" แถลงต้านนิรโทษล้างผิดคดีโกง
"ส.อ.ท.-สมาคมธนาคารไทย" เตรียมหารือสมาชิกก่อนแถลงจุดยืนต่อไป
ตลาดหุ้นนักลงทุนเทขายทำดัชนีรูดหนักกว่า 40 จุด
ขณะที่หลายฝ่ายออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา องค์กรภาคเอกชนโดย "หอการค้าไทย" ได้แถลงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวแล้ว นำโดยนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การแปรญัตติในมาตรา 3 ให้ครอบคลุมผู้กระทำความผิดในทางอาญา และคดีทุจริตคอร์รัปชั่น รวมระยะเวลา 9 ปีกว่า ซึ่งบางช่วงไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมือง ทางหอการค้าไทยและสภาหอการค้าฯ เห็นว่าผลของกฎหมายดังกล่าวเป็นการล้างผิดที่เกินไปจากผู้ชุมนุมทางการเมือง ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักสากล และจะส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ
.........................................................................................................
โฆษณา-ลิงก์ผู้สนับสนุน
.........................................................................................................
"หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ สมาคมการค้า และหอการค้าต่างประเทศมีความเห็นคัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในบางส่วน โดยเฉพาะในเรื่องการนิรโทษกรรมความผิดที่เกี่ยวกับความผิดคอร์รัปชั่น ซึ่งฝ่ายนิติบัญญัติควรร่วมกันปรับปรุงร่างกฎหมายดังกล่าวให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนส่วนใหญ่ โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จะนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงอันจะส่งผลกระทบและซ้ำเติมสังคมและเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมที่กำลังประสบกับปัญหาอยู่ ณ เวลานี้ จึงขอให้รัฐบาลและฝ่ายการเมืองที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวโดยพิจารณาหาทางออกอย่างรอบคอบและใช้ผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นที่ตั้ง"
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) สมาคมธนาคารไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นั้น ที่กระชุม กกร.ยังไม่สรุปว่าจะค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือไม่ เพราะ ส.อ.ท.และสมาคมธนาคารต้องรอฟังความเห็นของสมาชิกทั่วประเทศก่อน
"แต่คณะกรรมการก กกร.เห็นว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันกำลังนำไปสู่การเผชิญหน้ากันในสังคมและก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อประเทศจึงขอให้ทุกฝ่ายดำเนินการเพื่อหาทางออกโดยเร็วเพื่อธำรงไว้ซึ่งความสงบและความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของประเทศ" นายอิสระ กล่าว
ขณะที่ความคิดเห็นของภาคเอกชนในหลายๆ ธุรกิจต่างออกมาแสดงความเห็นคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยเช่นกัน โดยนายผณิศวร ชำนาญเวช รองประธานอาวุโส บริษัทแพ็คฟู้ด จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวเจาะจงเกินไปในการแก้ปัญหาให้แก่คนเฉพาะกลุ่ม ไม่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ ส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่ออกมาต่อต้าน
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ กรรมการรองเลขาธิการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การชุมนุมทางการเมืองเพื่อต่อต้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่เกิดขึ้น จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของต่างประเทศที่จะตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทย จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายแก้ไขปัญหาโดยยึดหลักกฎหมาย หลักนิติธรรมเป็นสำคัญ การใช้หลักกูคงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
“เรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษ อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมองประเทศชาติเป็นหลัก ที่ผ่านมามากกว่า 3-4 รัฐบาล ไม่เคยสนใจปัญหาของประเทศชาติ สำคัญที่สุดอยากให้รัฐบาลฟังบ้างว่าเอกชนเขาพูดอะไร และที่สำคัญทุกฝ่ายต้องใช้สติ ร่วมกับหลักการ กฎหมายและคุณธรรม เพื่อให้เป็นหลักการที่ตกลงกันได้ ไม่ใช่ใช้หลักกูอย่างเดียว แบบนี้ประเทศชาติน่าเป็นห่วง” นายพจน์ กล่าว
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ดัชนีราคาหุ้นปรับตัวลดลงแรงตลอดทั้งวัน โดยปิดทำการที่ระดับ 1,388.40 จุด ลดลง 40.68 จุด มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 34,712.22 ล้านบาท นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ระบุว่า นักลงทุนมีความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความรุนแรงมากขึ้น จึงเทขายเพื่อลดความเสี่ยง
หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
.........................................................................................................
โฆษณา-ลิงก์ผู้สนับสนุน
.........................................................................................................
|