สภาการนสพ. จี้ "ปู" "หยุดทำร้ายประเทศชาติ" ยุติดันกม.นิรโทษ
ชี้้ขัดหลักการ หนุนโกงทำร้ายปท.
ชมรมนักธุรกิจฯเป่านกหวีดต้านกม.ล้างผิด 4 พ.ย.

2พ.ย.2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาการหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลยุติการผลักดัน และให้ระงับการออก ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย เนื่องจากการดำเนินการที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามหลักการ สนับสนุนการทุจริตคอร์รัปชั่นในประเทศไทยให้มากขึ้น นอกจากนี้ คำว่า "เสียงข้างมาก" นั้นไม่ได้สะท้อนผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง การที่คนที่กระทำผิดกฎหมาย และคำพิพากษาศาลถึงที่สุดแล้ว สามารถเพิกถอนคำพิพากษาศาลได้ กฎหมายจะไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นการก้าวก่ายอำนาจตุลาการด้วย

.........................................................................................................
โฆษณา-ลิงก์ผู้สนับสนุน

.........................................................................................................

แถลงการณ์สภาการหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
"หยุดทำร้ายประเทศชาติ"

การผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งมิได้เป็นไปตามหลักการ มีลักษณะขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม เป็นช่องทางให้เกิดการทุจริต คอรัปชั่นมากขึ้นในสังคมไทย อีกทั้งเป็นการบั่นทอนกำลังใจ คนดีมีคุณธรรม และลดทอนคุณค่าของคุณงาม ความดี นับเป็นภัยร้ายแรงอย่างยิ่งสำหรับประเทศชาติในอนาคต สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ อันเป็นองค์กรอิสระ มีหน้าที่ในการควบคุมกันเอง ส่งเสริมให้หนังสือพิมพ์ทำหน้าที่ให้การศึกษาแก่ประชาชน ยึดถือความยุติธรรม และความเที่ยงธรรมเป็นหลักในการประกอบวิชาชีพ ได้ ตระหนักถึงภาระหน้าที่ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนี้ ที่จะส่งเสริม และสนับสนุน ความดี และคนดี ภายใต้รัฐและผู้ปกครองที่ดี และแสดงให้เห็นประจักษ์แก่สังคมทั่วไป

รัฐที่ดีจะต้องปกครองด้วยกฎหมายมิใช่มนุษย์ และไม่ใช่ปกครองด้วยกฎหมายซึ่งมาจาก “เสียงข้างมาก”ที่ไม่ได้สะท้อนผลประโยชน์ของชาติและประชาชนอย่างแท้จริง หากมุ่งหมายเพื่อตนเองและพวกพ้อง ในขณะเดียวกันอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติก็ไม่สามารถถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหารตามหลักการที่ถูกต้องได้ ในแง่ของความเป็นธรรม หรือหลัก “นิติธรรม” ซึ่งหมายถึงความเป็นธรรมที่มีอยู่ในกฎหมาย เป็นกฎ ระเบียบ แบบแผนที่สังคมยอมรับ และยินยอมพร้อมใจปฎิบัติตาม เมื่อพิจารณาประกอบกับเนื้อหาและเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้แล้ว เห็นว่าขัดกับหลักการทั้งเรื่อง นิติรัฐ และนิติธรรมอย่างสิ้นเชิง

เมื่อกฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ คนทำผิดกฎหมาย ทั้งที่มีคำพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้ว หรืออยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณา สามารถที่จะยกเลิกเพิกถอนคำพิพากษานั้นได้ในภายหลัง หรือพ้นไปจากข้อกล่าวหาโดยยังไม่มีการพิสูจน์ความผิดใดๆ การปฎิบัติตามกฎหมายก็จะไม่สำคัญอีกต่อไป อำนาจตุลาการ ซึ่งเป็นอำนาจสูงสุดโดยหลักการ ที่จะเป็นหลักประกันว่า บุคคลทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน และหากกระทำความผิดไม่ว่าคดีแพ่ง หรืออาญา ก็จะต้องได้รับการพิจารณาพิพากษาโดยศาลเดียวกัน อย่างเสมอหน้ากัน ก็จะไม่สามารถเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนได้อีก

เราเห็นว่ามติจากเสียงข้างมาก หากมิได้อยู่บนหลักการและพื้นฐานเพื่อประโยชน์สาธารณะ ก็ไม่สามารถรับรองความถูกต้องตามหลักการของการตรากฎหมาย ที่จะต้องคำนึงถึงหลักนิติธรรม และไม่สามารถที่จะอ้างความชอบธรรมได้ เราขอคัดค้านการบังคับใช้ให้เป็นไปตามร่างกฎหมายที่ไม่ชอบธรรมนี้ ขอสนับสนุนบุคคล กลุ่มบุคคล รวมทั้งกระบวนการอันชอบธรรมที่จะคัดค้านร่างกฎหมายนิรโทษกรรมอย่างถึงที่สุด และขอเรียกร้องให้วุฒิสภา อันประกอบด้วยผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย ได้ใช้วิจารณญาณในการพิจารณากฎหมายฉบับนี้อย่างรอบคอบ ถี่ถ้วน เพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติ และเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญในคุณค่าของความดี และคนดีของสังคมนี้

ชมรมนักธุรกิจฯเป่านกหวีดต้านกม.ล้างผิด4พ.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมของเครือข่ายนักศึกษา ประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ช่วงเวลา 17.30 น. เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีประชาชนได้ทยอยเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยจำนวนมาก แต่ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวแสดงพลังนอกพื้นที่ตามที่นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท. แถลงไว้เมื่อช่วงบ่าย

นอกจากนั้น บนเวทีมีการประกาศว่า ทางเครือข่ายฯ จะมีการแสดงพลังต่อต้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่จะเข้าสู่วาระพิจารณาของวุฒิสภา ในวันที่ 8 พ.ย. โดยได้นัดหมายในเวลา 17.00 น. ของวันที่ 7 พ.ย. ให้ไปรวมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อให้สมาชิกวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร ที่มีจุดยืนอยู่ข้างประชาชนไปแสดงตัว และจากนั้นก็จะมีการเป่านกหวีดเพื่อแสดงพลังต่อต้านการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมในชั้นวุฒิสภา

อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 17.50 น. โฆษกบนเวทีปราศรัย ได้แจ้งว่า วันที่ 4 พ.ย. เวลา 12.34 น. ทางชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย จะมีการรวมตัว เป่านกหวีดแสดงพลังต้านร่างกฎหมายล้างผิด โดยตั้งเป้าให้มีผู้เข้าร่วม เป็นขบวนยาวตลอดถนนสายสีลม และในเวลา 19.30 น. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จะร่วมขึ้นเวทีปราศรัย คปท. ด้วย

ปธ.ชมรมนักธุรกิจฯคาดมีคนร่วมที่สีลม3พัน
นายสมเกียรติ หเมละออ ประธานชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า กิจกรรม "สีลม สีเขียว ร่วมเป่านกหวีดต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรามฯ คนโกงชาติ" ในวันที่ 4 พ.ย. เวลา 11.00 - 12.35 น. ที่ใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสศาลาแดงนั้น เชื่อว่าจะมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับ "ต้านคนโกงชาติ" เกี่ยวกับพฤติกรรมโกงของครอบครัวชินวัตร เกี่ยวกับการซุกหุ้นและเลี่ยงภาษี จากนั้นจะมีการแจกแผ่นผ้าสีเขียว และนกหวีด 1หมื่นอัน เพื่อให้คนที่มาได้ทำกิจกรรมเป่าแสดงพลังต้านกฎหมายนิรโทษกรรมร่วมกัน เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วม 3,000 คน

จันทบุรีกลุ่มต้านไม่เอานิรโทษกรรมร่วมกิจกรรมกว่า300คน
ที่บริเวณลานจอดรถหน้าศาลากลางจังหวัดจันทบุรี กลุ่มไม่เอานิรโทษกรรม  เดินทางมารวมตัวกันบริเวณลานจอดรถ  กว่า 300 คน ทั้งนี้มีนายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา ส.ส.ประชาธิปัตย์เขต2  เดินทางมาร่วมการจัดกิจกรรมต้านไม่เอานิรโทษกรรม และมีการเปิดสัญญาณถ่ายทอดสดการชุมนุม จากสามเสนกรุงเทพฯ

เชียงรายต้านนิรโทษกรรมหวิดมีปะทะ
รายงานข่าวจาก จ. เชียงราย แจ้งว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมากลุ่มพลังมวลชนในจังหวัดเชียงราย ในนามกลุ่มพลังมวลชนเชียงราย 56 กว่า 100 คน  ได้มารวมตัวชุมนุมคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของรัฐบาล ที่ลานข้างอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช ภายในเขตเทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง  จ.เชียงราย    ปรากฏว่ามีกลุ่มเสื้อแดงเชียงรายกว่า 200 คน  ได้มาชุมนุมด้วย และมีการตั้งเวทีเผชิญหน้ากันและด่าทอกันไปมา   ต่อมาทั้งสองฝ่ายได้มีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่ซึ่งกันและกัน

นครศรีธรรมราชประชาชนทยอยร่วมเวทีต้านนิรโทษ
ประชาชนใน จ.นครศรีธรรมราช   เริ่มทยอยมาร่วมชุมนุมที่บริเวณศาลากลางนครศรีธรรมราชตามนัดหมาย ในเวลา 16.00 น.และเริ่มมีความคึกคักขึ้นตามลำดับ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนรักษาการณ์อยู่ในพื้นที่อย่างเข้มงวด  วันเดียวกันหอการค้านครศรีธรรมราชได้ออกแถลงการณ์คัดค้านการออกพระราชบัญญัติฉบับนี้ด้วย

ลูกแม่โดมออกโรงต้านนิรโทษ
ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในวาระ 2 และ 3 เมื่อวันศุกร์ที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น คณาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงได้มีจดหมายเปิดผนึกเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวความว่า ตามที่ได้มีการนำเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร และสภาผู้แทนราษฎรได้มีการแก้ไขเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ให้ครอบคลุมไปถึงการนิรโทษกรรมไม่เพียงแค่การกระทำของประชาชนอันเกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง และการแสดงออกทางการเมืองเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการกระทำอื่น ๆ ที่ไม่ใช่การกระทำของประชาชน รวมทั้งการกระทำที่เข้าข่ายทุจริตและคอรัปชั่นทั้งหลายของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย

ทั้งนี้ การนิรโทษกรรมครั้งนี้จึงเป็นการยกเว้นความผิดในทุกกรณีซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักนิติธรรม และหลักแห่งการนิรโทษกรรมที่ต้องมีเหตุผลและขอบเขตที่ชัดเจน และยังจะเป็นตัวอย่างให้ผู้กระทำผิดทั้งหลายโดยเฉพาะคดีทุจริตคอรัปชั่น ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง อีกทั้งมิได้ทำให้ข้อขัดแย้งทางการเมืองลดลงสมดังเจตนาของการออกกฎหมายแต่ประการใด

คณาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ซึ่งมีรายนามข้างท้ายนี้จึงขอคัดค้านร่าง กฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนี้และขอเรียกร้องให้วุฒิสภาแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคมไทย ยืนหยัดในหลักนิติธรรมด้วยการลงมติไม่เห็นชอบในร่างกฎหมายที่นำมาซึ่งความแตกแยกอย่างรุนแรงในสังคมไทย

สำหรับรายนามคณาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีจำนวน 300 รายชื่อประกอบด้วย ผู้บริหาร/คณาจารย์มหาวิทยาลัยเกือบทุกคณะ อาทิ ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดี มธ. ศ.ดร.สุรพล นิติพจน์ ,ผศ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล,รศ.เกศินี วิฑูรชาติ, ผศ. ดร.สุปรีดี ฤทธิรงค ,อ.ดร.ณัฐพัชร์ บัวบุญ อ.สุธาสินี ศรีนุ่น, รศ.ดร.สมชาย ชคตระการ, ผศ.ดร.นพพร ลีปรีชานนท์ ,ผศ.ดร.ไพลวรรณ สัทธานนท์ ,ดร.ผกามาศ พิริยะประสาธน์ ,ผศ.ดร.เสกสรรค์ สโมสรสุข ,อ.ดร. สุวรรณา โควะวินทวีวัฒน์ ,ศ. ดร. ประมวญ เทพชัยศรี ,รศ. จุฑามาศ เทพชัยศรี, ผศ.ดร.ศุภวัฒน์ สุภัควงศ์ ,ผศ.พญ.นรากร ลีปรีชานนท์ ,พญ. พิกุล วิมลเฉลา ,รศ. ดร. กำพล รุจิวิชชญ์ ,รศ.ดร. มรรยาท รุจิวิชชญ์ ,ดร. ชัยยุทธ ชวลิตนิธิกุล, ผศ. ดร.สุปรีดี ฤทธิรงค์ , พญ. พิชญาภา รุจิวิชชญ์ ,รศ.สุเพชร จิรขจรกุล รศ ชุมพจต์ อมาตยากุล ,รศ.ถวัลย์ ฤกษ์งาม ,รศ.ดร. นันทนา รณเกียรติ ,ศ.ดร. ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช ,รศ. ดร. ประภัสสร์ วังสกาจญ์ ,รศ.นพ. ปรีชา วาณิชยเศรษฐกุล ,นพ.ณัฐวัฒน์ วานิช, พญ.อุบลพันธ์ บุพพาจารย์ธรรม, นพ.ปวิธ พิพัฒน์วัฒนะกุล,นพ.ปวินท์ ศิริแสงชัยกุล, นพ. เอกวิทย์ เจริญวานิช, ผศ.ทพ.ดร.วีรชัย สิงหถนัดกิจ,อ.พญ.นิดา เรืองวิทย์, อ.มล.วโรดม ศุขสวัสดิ และ รศ ดร อรุณพร อิฐรัตน์

.........................................................................................................
โฆษณา-ลิงก์ผู้สนับสนุน

.........................................................................................................