เปิดแผนเพื่อไทยดัน-นิรโทษ...ทะลุซอย!

หลังจาก "หักดิบ" แก้เนื้อหาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จาก "ฉบับปากซอย" ของนายวรชัย เหมะ แกนนำเสื้อแดง มาเป็น "ฉบับสุดซอย" ของนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ล่าสุดรัฐบาลปฏิบัติการ "หักดิบ" อีกครั้ง ด้วยการนัดประชุมสภา "นัดพิเศษ" เพื่อพิจารณาเรื่องนี้โดยเฉพาะในวันพฤหัสบดีนี้ จากเดิมที่มีข่าวว่าอาจจะนำเข้าที่ประชุมในสัปดาห์หน้า คือ 6 พฤศจิกายน

.........................................................................................................
โฆษณา-ลิงก์ผู้สนับสนุน

.........................................................................................................

มีประเด็นที่น่าพิจารณา 2 ประเด็น คือ 1.ทำไมต้องเป็นวันพฤหัสนี้ และ 2.ทำไมต้องนัดประชุมพิเศษเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ ซึ่งทั้งสองคำถาม มีคำตอบเดียวกัน คือ ฝ่ายรัฐบาลต้องการ "ปิดจ็อบ" เรื่องนี้ให้เร็วที่สุด
 
"จนถึงตอนนี้ยังไม่มีเงื่อนไขใหม่ที่ทำให้เราต้องทบทวนท่าที ในสถานการณ์นี้ยิ่งเราทำเร็วเท่าไหร่โอกาสสำเร็จก็มีมากเท่านั้น" แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยกล่าว
 
การที่ต้องนัดประชุมเป็น "นัดพิเศษ" ก็เพื่อ "ตัดตอน" กระบวนการให้สั้นลง เพื่อให้ฝ่ายคัดค้านมีโอกาสค้านได้น้อยลง
 
ปกติหลังจากคณะกรรมาธิการพิจารณาเรื่องเสร็จแล้ว จะส่งสภาเพื่อบรรจุเข้าระเบียบวาระ ซึ่งหากไปดูในวาระการประชุมสภา จะพบว่ามีเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้วค้างอยู่ในระเบียบวาระหลายสิบเรื่อง และหากรัฐบาลซึ่งก็คือเสียงข้างมากในสภาเห็นว่าเรื่องใดเร่งด่วน ต้องการให้พิจารณาก่อนก็เสนอเลื่อนระเบียบวาระขึ้นมา มติจะให้เลื่อนหรือไม่ก็เป็นไปตามเสียงข้างมาก
 
แน่นอนหากฝ่ายรัฐบาลเลือกเดินตามขั้นตอนปกติ คือบรรจุเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าระเบียบวาระ และเสนอเลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อน ในขั้นตอนการเสนอเลื่อนขึ้นมา ก็จะต้องถูกฝ่ายค้านคัดค้านอย่างหนัก เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในตอนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง
 
หากจำกันได้ ในเหตุการณ์นั้น คือ เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม ปีที่แล้ว ฝ่ายรัฐบาลได้เสนอเลื่อนระเบียบวาระเรื่อง ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้าคณะปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 และร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของคนอื่นรวม 4 ร่างขึ้นมาเพื่อพิจารณาก่อน ปรากฏว่าฝ่ายค้านนำโดยพรรคประชาธิปัตย์ได้คัดค้านอย่างหนัก จนสภาเกิดความวุ่นวาย มีทั้งการปาแฟ้มเอกสาร และการไปลากเก้าอี้ประธานสภาเพื่อไม่ให้ประธานทำหน้าที่
 
ในที่สุดวันนั้นฝ่ายรัฐบาลเลื่อนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ขึ้นมาได้ แต่ไม่สามารถพิจารณาได้ต่อ นอกจากนั้นยังไม่สามารถไปแตะต้องร่าง พ.ร.บ.ปรองดองได้อีก ต้องทิ้งค้างแช่แข็งไว้ในระเบียบวาระ
 
ฝ่ายรัฐบาลได้บทเรียนจากเรื่องร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแล้ว ครั้งนี้จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนใหม่โดยสิ้นเชิง
 
ขั้นแรก "หลอก" นำร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง "ฉบับปากซอย" ที่อ้างว่าจะทำเพื่อช่วยเหลือผู้ร่วมชุมนุมทางการเมืองเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับแกนนำ ไม่เกี่ยวกับ "ทักษิณ" ที่สำคัญต้องรีบเพื่อช่วยผู้ที่ยังอยู่ในคุกออกมา ทำให้กระแสคัดค้านมีไม่มาก
 
ขั้นสอง "หักดิบ" แก้ไขเนื้อหาเกินเลยไปจากหลักการที่สภารับหลักการในวาระแรก แบบหน้ามือเป็นหลังมือ โดยไม่สนใจเสียงคัดค้านที่มาจากทั้ง "คนในพรรค" และ "คนนอกพรรค"
 
ตอนนี้เป็นขั้นที่สาม คือ แทนที่จะบรรจุเข้าวาระการประชุมปกติ ก็ลัดขั้นตอน นัดประชุมพิเศษ เพื่อตัดตอนการคัดค้านของฝ่ายค้าน
 
สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นในขั้นตอนต่อไป คือ เมื่อร่าง พ.ร.บ.นี้เข้าสู่การพิจารณาของสภา ก็จะมีการเสนอ "ปิดอภิปราย" ในแต่ละมาตราเพื่อไม่ให้การประชุมยืดเยื้อ ซึ่งวิธีนี้ฝ่ายรัฐบาลใช้มาแล้วในขั้นการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ ที่เลือกจะใช้เสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมให้มีมติ "ปิดอภิปราย" แทนการอธิบายความ หรือโต้เถียงกับฝ่ายค้าน รวมทั้งในช่วงการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา รัฐบาลก็ใช้วิธีเสนอ "ปิดอภิปราย" เพื่อรวบรัดขั้นตอนเช่นกัน
 
พรรคเพื่อไทยเตรียมการเรื่องนี้โดยการประชุมพรรคเพื่อถกเถียงและมีมติในเรื่องนี้ออกมา ซึ่งทางพรรคมองว่าการมี "มติพรรค" ออกมาจะทำให้ ส.ส.ไม่แตกแถว และขณะเดียวกัน ก็จะเป็น "เหตุผล" ให้บางคนที่ไม่เห็นด้วย เช่น ส.ส.ที่เป็นแกนนำเสื้อแดง ใช้อธิบายกับคนเสื้อแดงได้ว่าจำเป็นต้องทำตามมติพรรค
 
ขณะเดียวกันฝ่ายรัฐบาลพยายาม "แยกรัฐบาลออกจากสภา" บอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสภา ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ดังที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พูดในทุกครั้งที่ถูกสัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ และยังมีความเป็นไปได้ว่านายกฯ อาจจะไม่เข้าร่วมประชุมสภาเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประชุมสภาในวันพฤหัสบดีนี้ ตรงกับวันที่นายกฯ มีกำหนดการจะต้องลงพื้นที่ จ.ลพบุรี ก่อนประชุม "ครม.สัญจร" ที่จะมีในวันศุกร์
 
ช่างเป็นเวลาที่พอเหมาะพอดีดั่งได้รับการวางแผนมาแล้ว เช่นกับหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา ที่นายกฯ มักไม่อยู่ร่วมประชุมสภาในช่วงเวลาที่มีเรื่องร้อนๆ
 
จับตาว่า "เกมทะลุซอย" เพื่อพาทักษิณกลับบ้านจะสำเร็จหรือไม่ เกมนี้จะจบลงอย่างไร !!

(หมายเหตุ : เปิดแผนเพื่อไทยดันนิรโทษ...ทะลุซอย! :  สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์ สำนักข่าวเนชั่น)

.........................................................................................................
โฆษณา-ลิงก์ผู้สนับสนุน

.........................................................................................................