ประชาธิปัตย์ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ
ตีความแก้รมาตรา 190  ขัด 68
ห่วงปิดช่องทางตรวจสอบ
เพิ่มอำนาจฝ่ายบริหาร 

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันที่ 4 พ.ย. จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190  ว่าเป็นการล้มล้างการปกปครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือกระทำที่เข้าข่ายให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งไม่เป็นไปตามวิธีทางที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญ  ตามรัฐธรรมนูมาตรา 68 หรือไม่

.........................................................................................................
โฆษณา-ลิงก์ผู้สนับสนุน

.........................................................................................................

ทั้งนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว โดยกระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายก็เป็นไปโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ทั้งการปิดอภิปรายและการประชุมที่ไม่ครบองค์ประชุม มีการแก้ไขในลักษณะที่เพิ่มอำนาจและเปิดช่องให้ฝ่ายบริหารสามารถทำหนังสือสัญญาที่อาจมีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตประเทศ โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา ส่งผลให้ในอนาคตรัฐบาลหรือฝ่ายบริหารสามารถหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากรัฐสภา

นายวิรัตน์  กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ​นำโดยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งมาจากพรรคพลังประชาชน มีแนวคิดที่ลดอำนาจการตรวจสอบของรัฐสภา และเพิ่มอำนาจให้กับฝ่ายบริหาร ซึ่งเคยมีมติ ครม.เมื่อปี 2551 ให้ความเห็นชอบการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดย นายพพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ ได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา เป็นการยอมรับแผนที่กัมพูชา ซึ่งที่สุดศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่าจะต้องได้รับความเห็นชอบจากสภา เพราะฉะนั้นการแก้ไขจึงเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการเสียดินแดน  อีกทั้งยังน่าเป็นห่วงเพราะมีข่าวต่อเนื่องว่าผู้มีอำนาจตัวจริงในรัฐบาลพยามที่จะเข้าไปลงทุนกิจการพลังงานในอ่าวไทย กับกัมพูชา และมาเลเซีย 

โพสต์ทูเดย์ ดอทคอม

.........................................................................................................
โฆษณา-ลิงก์ผู้สนับสนุน

.........................................................................................................