ระหว่าง 14-30% ของเด็กและวัยรุ่นทั่วโลกมีปัญหาในการเรียนรู้อย่างรุนแรงจนต้องได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติม ปัญหาเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับปัญหาด้านความรู้ความเข้าใจและ/หรือพฤติกรรม ในบางกรณี เด็กที่กำลังดิ้นรนอยู่ในโรงเรียนจะได้รับการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับปัญหาการเรียนรู้หรือความทุพพลภาพที่เฉพาะเจาะจง เช่น ดิสเล็กเซีย ความผิดปกติของแคลคูเลียหรือพัฒนาการทางภาษา หรือความผิดปกติของพัฒนาการ เช่น สมาธิสั้นและสมาธิสั้น (ADHD) ดิสแพรกเซีย หรือโรคออทิสติกสเปกตรัม

นักวิทยาศาสตร์มีปัญหาในการระบุพื้นที่เฉพาะของสมองที่อาจก่อให้เกิดปัญหาเหล่านี้ โดยการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับบริเวณสมองจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น ADHD เชื่อมโยงกับ anterior cingulate cortex, caudate nucleus, pallidum, striatum, cerebellum, prefrontal cortex, premotor cortex และส่วนใหญ่ของ parietal lobe

คำอธิบายที่เป็นไปได้ประการหนึ่งก็คือ การวินิจฉัยโรคแต่ละครั้งมีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างบุคคลหนึ่งกับรายถัดไป ซึ่งแต่ละกรณีเกี่ยวข้องกับการผสมผสานบริเวณสมองที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ทีมนักวิทยาศาสตร์ของ MRC Cognition and Brain Sciences Unit, University of Cambridge ได้เสนอคำอธิบายที่ยั่วยวนยิ่งกว่าเดิม: อันที่จริงแล้ว ไม่มีบริเวณสมองที่เฉพาะเจาะจงที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้

เพื่อทดสอบสมมติฐาน นักวิจัยได้ใช้แมชชีนเลิร์นนิงเพื่อทำแผนที่ความแตกต่างของสมองในกลุ่มเด็กเกือบ 479 คน โดย 337 คนถูกอ้างถึงว่ามีปัญหาด้านความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเรียนรู้ และ 142 คนจากตัวอย่างเปรียบเทียบ อัลกอริธึมตีความข้อมูลที่นำมาจากแบตเตอรีขนาดใหญ่ของการวัดความรู้ความเข้าใจ การเรียนรู้ และพฤติกรรม ตลอดจนจากการสแกนสมองที่ถ่ายโดยใช้การถ่ายภาพด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก (MRI) ผลที่จะได้รับการตีพิมพ์ในวันนี้ชีววิทยาปัจจุบัน

นักวิจัยพบว่าความแตกต่างของสมองไม่ได้จับคู่กับฉลากที่เด็กได้รับ กล่าวคือ ไม่มีบริเวณสมองที่คาดการณ์ว่าจะเป็นโรค ASD หรือ ADHD ที่น่าแปลกใจกว่านั้นคือ พวกเขาพบว่าบริเวณต่างๆ ของสมองไม่ได้คาดการณ์ถึงปัญหาด้านความรู้ความเข้าใจโดยเฉพาะ ไม่มีการขาดดุลของสมองอย่างเฉพาะเจาะจงสำหรับปัญหาทางภาษาหรือปัญหาด้านความจำ เป็นต้น

แทนที่จะเป็นเช่นนั้น ทีมงานพบว่าสมองของเด็กถูกจัดวางไว้รอบๆ ศูนย์กลาง เช่น ระบบการจราจรที่มีประสิทธิภาพหรือเครือข่ายสังคมออนไลน์ เด็กที่มีฮับสมองที่เชื่อมโยงกันเป็นอย่างดีมีปัญหาด้านความรู้ความเข้าใจที่เฉพาะเจาะจงมาก เช่น ทักษะการฟังที่ไม่ดี หรือไม่มีปัญหาด้านความรู้ความเข้าใจเลย ในทางตรงกันข้าม เด็กที่มีฮับที่เชื่อมต่อกันไม่ดี เช่น สถานีรถไฟที่มีการเชื่อมต่อไม่มากนัก มีปัญหาด้านความรู้ความเข้าใจที่แพร่หลายและรุนแรง

ดร.ดันแคน แอสเทิล ผู้เขียนอาวุโสด้านการศึกษากล่าวว่า "นักวิทยาศาสตร์ได้โต้เถียงกันมานานหลายทศวรรษแล้วว่า มีบริเวณของสมองที่คาดการณ์ว่าจะมีความผิดปกติในการเรียนรู้หรือมีปัญหาในการเรียนรู้ แต่เราได้แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่เป็นเช่นนั้น" "อันที่จริง การพิจารณาว่าพื้นที่สมองเหล่านี้เชื่อมต่อกันอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเชื่อมต่อผ่านฮับหรือไม่ ความรุนแรงของความยากลำบากในการเรียนรู้มีความสัมพันธ์อย่างมากกับความเชื่อมโยงของฮับเหล่านี้ เราคิดว่าเพราะฮับเหล่านี้เล่นเป็นกุญแจสำคัญ บทบาทในการแบ่งปันข้อมูลระหว่างพื้นที่สมอง”

ดร.แอสเทิล กล่าวว่า ความหมายอย่างหนึ่งของงานของพวกเขาก็คือ การแทรกแซงควรพึ่งพาฉลากการวินิจฉัยน้อยลง

“การได้รับการวินิจฉัยเป็นสิ่งสำคัญสำหรับครอบครัว มันสามารถให้การยอมรับอย่างมืออาชีพสำหรับปัญหาของเด็กและเปิดประตูรับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญ แต่ในแง่ของการแทรกแซงเฉพาะ เช่น จากครูของเด็ก สิ่งเหล่านี้สามารถเบี่ยงเบนความสนใจได้

"ควรดูพื้นที่ของปัญหาด้านความรู้ความเข้าใจและวิธีการสนับสนุนเหล่านี้ดีกว่าเช่นการใช้การแทรกแซงเฉพาะเพื่อพัฒนาทักษะการฟังหรือความสามารถทางภาษาหรือการแทรกแซงที่จะดีสำหรับทั้งชั้นเรียนเช่นวิธีการลดการทำงาน ความต้องการความจำระหว่างการเรียนรู้"

การค้นพบนี้อาจอธิบายได้ว่าทำไมการรักษาด้วยยาจึงไม่ได้รับการพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพสำหรับความผิดปกติของพัฒนาการ ตัวอย่างเช่น Methylphenidate (Ritalin) ซึ่งใช้รักษาโรคสมาธิสั้น ดูเหมือนจะช่วยลดอาการสมาธิสั้น แต่ไม่สามารถแก้ไขความลำบากในการรับรู้หรือปรับปรุงความก้าวหน้าทางการศึกษาได้ ยามีแนวโน้มที่จะกำหนดเป้าหมายเซลล์ประสาทบางประเภท แต่จะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อองค์กรที่ "ใช้ศูนย์กลาง" ที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ฮับและการเชื่อมต่อของพวกเขาได้รับการแสดงให้เห็นว่ามีบทบาทสำคัญในการเรียนรู้ปัญหาและความผิดปกติของพัฒนาการ ความสำคัญของพวกเขาในความผิดปกติของสมองมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักวิจัยเคมบริดจ์ได้แสดงให้เห็นก่อนหน้านี้ว่าพวกเขายังมีบทบาทสำคัญในความผิดปกติด้านสุขภาพจิตที่เริ่มปรากฏในช่วงวัยรุ่น เช่น โรคจิตเภท

การศึกษาได้รับทุนจากสภาวิจัยทางการแพทย์สล็อตออนไลน์ 918kiss