นวดวัดโพธิ์ปั้นแบรนด์ "เชตวัน"
สู่ศูนย์สุขภาพครบวงจรเต็มตัว
 
โรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดโพธิ์ ต่อยอดศาสตร์การนวดไทย เปิดแนวรุกขยายธุรกิจสู่ศูนย์สุขภาพครบวงจรเต็มตัว ปั้นเชตวันศาลายา สร้างจุดขายรีสอร์ต เพื่อการบำบัด พร้อมผุดโรงเรียนแพทย์แผนโบราณ และศูนย์สุขภาพ เชตวัน แห่งที่2 ในเชียงใหม่ ทั้งรุกสาขาสู่ปั๊มปตท. พร้อมเปิดบริการใหม่นวดเด็กออทิสติกและขยายรับสอนนวดสู่อินเดีย และยุโรป

.........................................................................................................
โฆษณา-ลิงก์ผู้สนับสนุน

.........................................................................................................

นายเสรัชย์ ตั้งตรงจิตร กรรมการผู้จัดการ ศูนย์สุขภาพเชตวัน ในเครือโรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าในขณะนี้ทางตระกูลตั้งตรงจิตร มีแผนจะผลักดันศูนย์สุขภาพเชตวัน ให้เป็นศูนย์สุขภาพครบวงจร โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสร้างรีสอร์ตขึ้น ภายในศูนย์สุขภาพเชตวัน ที่ศาลายา จ.นครปฐม เพื่อเพิ่มบริการให้รองรับลูกค้าได้ครบวงจร นอกเหนือจากปัจจุบันที่มีบริการในส่วนของโรงเรียนสอนนวด บริการนวด และร้านอาหารอยู่แล้วเดิม โดยในส่วนของรีสอร์ต ที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง จะเป็นอาคารที่พัก 15 ห้อง มีสระว่ายน้ำ มีสถานที่พักผ่อน อยู่ในบริเวณเดียวกัน ในสไตล์ไทยประยุกต์  คาดว่าจะเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งขณะนี้งานก่อสร้างคืบหน้าไปกว่า 20%  ใช้งบลงทุนในส่วนราว 10-20 ล้านบาท

ทั้งนี้เมื่อสร้างรีสอร์ตแล้วเสร็จ  จะทำให้ศูนย์สุขภาพเชตวัน ศาลายา กลายเป็นต้นแบบครบวงจร เป็นคอนเซ็ปต์ในเชิงบำบัด มีทั้งส่วนที่เป็นโรงเรียน ส่วนสุขภาพ หอพัก ร้านอาหาร และรีสอร์ต  บนพื้นที่ราว 16 ไร่ มูลค่าการลงทุนในโครงการโดยรวมมากกว่า 200 ล้านบาท ส่วนการลงทุนเพิ่มเติมส่วนอื่นๆ จะเป็นในลักษณะค่อยๆ เพิ่มเติมทีละนิด ซึ่งลูกค้าที่มาจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ รวมไปถึงการบริการ แพ็กเกจทรีตเมนต์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการนวดให้บริการบำบัดทุกวัน และมีการบำบัดเพิ่มเติม เช่น บำบัดทางน้ำ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีแผนสร้างโรงเรียนแพทย์แผนโบราณเชตุพน และศูนย์สุขภาพเชตวันที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จากเดิมที่มีศูนย์สุขภาพเชตวัน สาขาเชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมือง โดยจะมีการสร้างในรูปแบบคล้ายกับสาขาศาลายา ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ แบ่งพื้นที่เป็นส่วนสาธารณะ วิลล่า โรงเรียน หอพัก บ้านพักพนักงาน และส่วนงานระบบ และตามแผนที่วางไว้ จะมีน้ำพุร้อน มีการสอนให้นักเรียนทำนา ให้คนต่างชาติเรียนรู้ภูมิปัญญาไทย รู้จักวัฒนธรรมไทย และจะได้เข้าใจว่าทำไมนวดไทยจึงประสบความสำเร็จ สำหรับงบในการสร้างจะใช้ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท บนเนื้อที่ 12 ไร่

อีกทั้งทางศูนย์สุขภาพเชตวัน ยังได้ขยายสาขาเข้าไปเปิดให้บริการในปั๊มน้ำมัน ปตท. ซึ่งอยู่ในพื้นที่คอมมิวนิตี มอลล์ หรือพีทีทีไลฟ์ โดยมีการเปิดสาขาพีทีทีไลฟ์ พลาซ่า ถ.บรมราชชนนี กรุงเทพฯ ตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ประกอบกับเมื่อกลางเดือนกันยายนนี้ได้เปิดสาขา 2 ที่ถนนราชพฤกษ์ รวมถึงในเดือนมกราคมปีหน้าจะเปิดสาขา 3 ที่ปั๊ม ปตท. สุขาภิบาล 3 ทั้งนี้คาดว่าการขยายสาขาเข้าไปในปั๊ม ปตท. จะสามารถทำได้มากกว่าใช้พื้นที่ราว 100 ตารางเมตร รับลูกค้าได้เต็มที่ 8-10 คน เน้นกลุ่มลูกค้าที่อยู่ใกล้ชุมชน ใกล้บ้าน แต่การบริการอาจจะไม่ครบ ซึ่งอาจจะมีการทำโปรโมชันมาเสริม นอกจากนี้ภายในปลายปีนี้คาดว่าน่าจะเปิดได้อีกหนึ่งสาขา และหากได้รับการตอบรับดี สาขาในปั๊ม ปตท.ก็จะขยายมากขึ้น นับเป็นรูปแบบใหม่ อีกทั้งในปลายเดือนตุลาคมนี้เตรียมเปิดสาขาเพิ่มอีกที่สโมสรของหมู่บ้านบางกอกบูเวอวาร์ด ถ.เกษตรฯ-นวมินทร์ตัดใหม่ เป็นรูปแบบเดียวกับสาขาในปั๊ม ปตท. เนื่องจากคาดว่าร้านนวดในลักษณะคอมมิวนิตี มอลล์แบบนี้จะมาแรงกว่าในห้างสรรพสินค้า

นายเสรัชย์ ยังกล่าวต่อว่า ในส่วนของขยายสาขาออกไปยังต่างจังหวัด นอกจากที่เชียงใหม่แล้ว ยังสนใจขยายไปที่ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจะพิจารณาในจังหวัดใหญ่ๆ ซึ่งคาดว่าในอีก 3-4 ปีนี้ จะมีสาขาในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นแน่นอน และต้องการเปิดให้ได้ทุกเดือนเดือนละแห่ง ซึ่งจะทำควบคู่กันไปหมด ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สำหรับรูปแบบของการขยายในต่างจังหวัด ถ้าเป็นรูปแบบเดียวกับศาลายา ก็จะเป็นเมืองหลักๆ หากเป็นภาคใต้ก็จะมองที่กระบี่ ภูเก็ต ดูสถานที่ที่ทำงานง่าย มีแนวโน้มการตอบรับที่ดี ถ้าเป็นภาคอีสานก็มองที่ขอนแก่น หรือโคราช นอกจากนี้ ยังมีผู้ชักชวนให้ขยายสาขาไปที่ประเทศลาว ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งตลาดที่มองไว้เช่นกัน 

นอกจากนี้ยังมีแผนการขยายไปรับสอนยังต่างประเทศด้วย โดยที่มีเจรจาไว้แล้วคือ ประเทศอินเดีย และยุโรป เช่น สวิตเซอร์แลนด์  เพิ่มจากที่ผ่านมา ซึ่งเชตวันได้ไปสอนด้านนวดไทยมาแล้วที่รัสเซีย ญี่ปุ่น จีน ฟิลิปปินส์ ฝรั่งเศส รียูเนียน ไอร์แลนด์ เยอรมนี และออสเตรีย โดยเป็นโรงเรียนสอนหลายๆ แบบ ทั้งนี้ เชตวันอาจไปสอนแบบ 3 เดือนครั้ง มีการทำตารางไว้แน่นอน เช่น อาจไปทุกเดือนมีนาคม ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับดี มีคนสนใจ เพราะไทยเป็นที่ยอมรับ รวมถึงต้องการให้วิชาการด้านนี้กว้างไกลกว่าเดิม     

"การขยายธุรกิจของเชตวันที่เพิ่มขึ้น เพราะมองเห็นศักยภาพว่าคนไทยนิยมการนวดมากขึ้น ส่วนการสอนไปยังต่างประเทศ เพราะมองว่าสังคมตะวันตกมีความอบอุ่นน้อย ไม่ค่อยได้รับการดูแลจากลูกหลาน การนวดจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้มากยิ่งขึ้น"

นายเสรัชย์ ยังกล่าวต่อว่า สำหรับการนวดที่เชตวัน นอกจากการนวดโดยทั่วๆ ไปสำหรับผู้ใหญ่แล้ว ยังมีการนวดสำหรับเด็ก ตั้งแต่ทารก ถึง 3 เดือน เน้นสอนให้พ่อแม่นวดสร้างความอบอุ่น สร้างความปลอดภัยให้ลูก รวมทั้งสาขาศาลายาและแจ้งวัฒนะ ก็ยังมีการนวดสำหรับเด็กออทิสติก ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงเพิ่งเริ่มต้น แต่มีพ่อแม่พาลูกมาจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ว่าการนวดสามารถช่วยเด็กออทิสติกให้มีพัฒนาการดีขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งก็ตรงกับการตอบรับจากพ่อแม่ว่าเมื่อกลับไปบ้านเด็กจะไม่ค่อยเครียด และนอนหลับสนิทมากขึ้น

ส่วนกลุ่มเป้าหมายของเชตวันนั้น จะเน้นเจาะกลุ่มคนในวัยทำงานถึงผู้สูงอายุ รวมทั้งมองทุกคนที่สนใจดูแลตัวเอง ทั้งนี้ สังคมยอมรับเรื่องการนวดมากขึ้น ด้านคู่แข่ง ผมไม่เป็นห่วงเพราะร้านนวดราว 70% เป็นลูกศิษย์ที่จบไปจากวัดโพธิ์ทั้งนั้น คู่แข่งจึงเป็นเพื่อนกันในการสร้างตลาดมากกว่า ซึ่งเชตวันเองก็มีการสร้างตลาดให้ทั่วโลกยอมรับ สำหรับกลยุทธ์การตลาดจะเน้นในรูปแบบการบอกต่อ ให้เข้ามาใช้บริการแล้วนำไปบอกต่อ

ในด้านสัดส่วนของนักเรียน ซึ่งเชตวัน เปิดสอนนวด แบ่งเป็นชาวต่างชาติราว 70% และคนไทยราว 30% ซึ่งผู้มาเรียนมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งเรียนเพื่อไปทำงานและประดับความรู้ เช่น นักกีฬามาเรียนเพื่อรู้ รวมถึงการมีหลักสูตรระยะสั้นถึงระยะยาว จนถึงหลักสูตร 800 ชั่วโมง สำหรับคนไทย ส่วนชาวต่างชาติมีหลักสูตร 60-380 ชั่วโมง เรียนที่ศาลายา โดยมีค่าเรียนรวมค่าหอพัก ซึ่งราคาหอพักและอาหาร 3 มื้อ ส่วนวันอาทิตย์พาไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพื่อให้เห็นขนบธรรมเนียมไทย ทั้งนี้ จำนวนนักเรียนในหนึ่งปีมีราว 8-9 พันคน ส่วนคนที่มาใช้บริการนวดทุกสาขาในหนึ่งวันมีราว 400-500 คน 

พร้อมกันนี้ เชตวันยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่มีการทำงานเกี่ยวกับนวดแผนไทย เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการต่างประเทศ ที่มีการเชิญตัวแทนจากเชตวันให้เข้าไปเป็นกรรมการ ไปให้ความเห็น และช่วยกันร่างมาตรฐานและหลักสูตร เช่น กระทรวงศึกษาธิการ มีการร่างหลักสูตรปริญญาตรีด้านนี้ นอกจากนี้ เชตวันยังเคยร่วมงานกับวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อช่วยผู้ป่วยระยะสุดท้ายให้ไปอย่างสงบ เช่น การออกกำลังกาย ฤาษีดัดตน การนวดเชิงสปา เป็นต้น

ประกอบกับยังมีสมาคมแพทย์แผนโบราณและอายุรเวทวัดพระเชตุพนฯ ที่เน้นการทำกิจกรรมช่วยการกุศล เช่น การไปสอนนวดไทยในเรือนจำต่างๆ ทั้งนี้เพื่อให้คนที่ใกล้จะพ้นโทษได้มีอาชีพติดตัวออกไป โดยมีร้านนวดชื่อชวนชม ในเรือนจำคลองเปรมสำหรับการฝึกอาชีพ นอกจากนี้ ยังไปสอนที่เทศบาลหรือโรตารีต่างๆ ขึ้นอยู่กับว่าหน่วยงานใดจะทำจดหมายขอมา ซึ่งส่วนมากจะเป็นผู้มีรายได้น้อย

ปัจจุบันศูนย์สุขภาพเชตวัน มีสาขารวมทั้งสิ้น 4 สาขา ได้แก่ สาขาเชียงใหม่, แจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี, ศาลายา จ.นครปฐม และสาขาที่ 4 พีทีทีไลฟ์ พลาซ่า ถ.บรมราชชนนี กรุงเทพฯ

ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

.........................................................................................................
โฆษณา-ลิงก์ผู้สนับสนุน

.........................................................................................................