5 ข้อดี 4 ข้อเสีย
ของระบบธุรกิจแฟรนไชส์
(Franchise) เมืองไทย
คิดก่อนลงทุน
ใครต่อใครต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise) ยังไปได้ด้วยดี คนยังสนใจ จนทำให้บางครั้งอาจลืมคิดถึงข้อดี ข้อเสีย ของระบบแฟรนไชส์ (Franchise) จึงขอย้ำกันอีกครั้งด้วยข้อมูลเบื้องต้นง่ายๆ ไว้ถามใจตนเองดูก่อน ก่อนที่จะคิดลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise)
.........................................................................................................
โฆษณา-ลิงก์ผู้สนับสนุน
.........................................................................................................
ข้อดีของระบบธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise)
- ลดความเสี่ยง: ซึ่งหลายๆ คนได้บอกว่า ต้องการซื้อทั้งแพ็กเกจ ต้องการซื้ออะไรที่สำเร็จรูป คือ ซื้อแฟรนไชส์ (Franchise) แล้วไม่ขาดทุน ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ผู้ซือแฟรนไชส์ (Franchisee) คาดหวังว่า ถ้าซื้อแล้วต้องกำไรแน่นอน แต่ไม่ได้ดูถึงปัจจัยอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งต้องมีการวิจัยตลาดเสียก่อน
- ได้ประโยชน์จากเครื่องหมายการค้าและส่วนประสมทางการตลาด: เช่น ถ้าเขาจะทำร้านอาหาร เห็นป้ายนี้แล้วจะต้องอร่อย ตรงนี้เขาจะต้องได้ประโยชน์
- ประหยัดเวลาและเงิน: ใช้แบบระบบบัญชี คือ First in–First out เงินเข้ามาเราต้องเก็บให้นานที่สุด แต่เงินจะออกให้พยายามดึงให้นานที่สุด เช่น การวางบิล
- เส้นทางลัดที่จะได้รับความรู้ทางธุรกิจ: คือใน 1 อาทิตย์ การเรียนรู้ แล้วในอีก 1 อาทิตย์ต่อมา คือการปฏิบัติ
- ได้รับสินค้าและระบบธุรกิจที่มีการวิจัยและพัฒนาใหม่: ก็คือต้องมี Research และ Development ให้กับผู้ซื้อแฟรนไชน์ (Franchisee)
ข้อเสียของระบบธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise)
- มีข้อจำกัดในการทำงาน ขาดความเป็นอิสระในการเป็นตัวของตัวเอง: คือ เงื่อนไขตามสัญญาที่ระบุ
- ค่าใช้จ่ายสูงในการชำระค่าธรรมเนียมและผลตอบแทน: ข้อนี้สำคัญเพราะเงินแต่ละบาทที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ (Franchisee) ได้จ่ายไป แล้วเขาได้อะไรกลับมาบ้าง ช่วยอะไรเขาได้บ้าง โฆษณาให้เขาได้บ้างไหม เพราะทุกอย่างที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์จ่าย เขาจะมองว่าต้องมีอะไรกลับมาให้เขาบ้าง
- มีโอกาสถูกบอกเลิกสัญญาได้ง่าย: ถ้าผู้ขายแฟรนไชส์ (Franchisor) ไม่มีกำหนดในเรื่องของการประกันยอดขาย คุณก็จะเกิดปัญหาตามมาเหมือนกัน
- ความผิดพลาดของผู้ขายแฟรนไชส์: ที่ผ่านมาคนขายแฟรนไชส์ (Franchisor) จะมองว่าเห็นโอกาสธุรกิจดี เร่งขายแฟรนไชส์ (Franchise) โดยไม่มีระบบที่ถูกต้องรองรับ ในฐานะที่เราจะเป็นคนขายแฟรนไชส์ (Franchisor) เราจะต้องมองว่าคนซื้อแฟรนไชส์ (Franchisee) เขาจะมองเราอย่างไร มองว่าเรามีแผนอะไรได้บ้าง สิ่งที่เขามองก็คือ เจ้าของกิจการมีวิสัยทัศน์อย่างไร วิสัยทัศน์ที่จะมองในระยะสั้น ระยะยาว เพื่อที่เขาจะได้มั่นใจว่า แฟรนไชส์ (Franchise) ที่เขาซื้อมีแผนพัฒนาธุรกิจที่ถูกต้อง

ซึ่งการเข้ามาทำธุรกิจแฟรนไชส์ทำไมต้องมีการวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ของระบบธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise) เพราะธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise) เป็นธุรกิจที่ร่วมกันของบุคคลทั้ง 2 ฝ่าย โดยที่ฝ่ายหนึ่งขาดความรู้ ความชำนาญ ก็คือ แฟรนไชซี (Franchisee) และอีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ คือ แฟรนไชซอร์ (Franchisor) โดยทั้ง 2 ฝ่าย ต่างก็ได้รับประโยชน์จากการมาร่วมกันในเชิงธุรกิจ
โดยมีแฟรนไชซอร์ (Franchisor) เป็นผู้ถ่ายทอดหรือสอนความรู้และประสบการณ์ของตนเองแก่แฟรนไชซี (Franchisee) ทำให้เขาสามารถปฏิบัติได้ในแนวทางอย่างที่ตนปฏิบัติจนประสบความสำเร็จมา แน่นอนหากธุรกิจใดที่ผู้เป็นเจ้าของไม่สามารถสอน หรือถ่ายทอดความรู้ของตนที่มีอยู่ออกมาได้ ไม่ว่าด้วยสาเหตุหนึ่งสาเหตุใดก็ตาม ความเป็นแฟรนไชส์ (Franchise) ก็มิอาจจะเกิดขึ้นได้ การขยายสาขาหรือบริการจึงถูกจำกัดด้วยกังวล ความสามารถของผู้ที่เป็นต้นดำเนินกิจการเท่านั้น
หากธุรกิจสามารถสอนและถ่ายทอดได้ แต่การเรียนรู้นั้นต้องใช้เวลานานหรือคุณสมบัติของผู้ที่จะรับความรู้หรือความถ่ายทอดจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้หรือทักษะที่ค่อนข้างสูง เช่น ต้องเป็นผู้ที่จบปริญญาเอกเป็นอย่างต่ำ หากเป็นเช่นนี้ธุรกิจก็ถูกจำกัดเช่นเดียวกัน
เรียบเรียงบทความ
5 ข้อดี 4 ข้อเสีย
ของระบบธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise) เมืองไทย คิดก่อนลงทุน
โดยกองบรรณาธิการ
www.YesSpaThailand.com
.........................................................................................................
โฆษณา-ลิงก์ผู้สนับสนุน
.........................................................................................................
|